ตู้เก็บเอกสารมีหลายชนิด มีทั้งชนิดเป็นเหล็กและไม้ นอกจากนี้ยังมีหลายขนาดหลายราคา และยังมีสีให้เลือกต่างๆ กัน มีทั้งชนิดแบบลิ้นชัก แบบบานเปิด-ปิด แบบบานเลื่อน แบบหมุน แบบหิ้งเปิด และแบบรางเลื่อน ให้พิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม

ในปัจจุบัน นิยมใช้ตู้เหล็กสำหรับเก็บเอกสารและนิยมใช้ตู้แบบมีลิ้นชัก ซึ่งมีขนาดต่างๆ กัน เช่น ขนาดเก็บบัตร 3 x 5 นิ้ว, 4 x 6 นิ้ว, และ 5 x 6 นิ้ว ตู้ลิ้นชักที่ใส่เอกสารขนาดมาตรฐานโดยทั่วไปจะมีขนาด 13 x 13 นิ้ว และมีความลึก 26 นิ้ว ใส่เอกสารได้ประมาณ 5,000 ชิ้น โดยปกติลิ้นชักหนึ่งๆ จะมีบัตรนำประมาณ 20-40 บัตร และแฟ้มประมาณ 30 แฟ้ม และถ้าหากในตู้มีแฟ้มเก็บเอกสารไม่เต็มลิ้นชัก จะต้องมีแผงกั้นแฟ้ม ช่วยดันแฟ้มเอกสารให้เอกสารตรงไม่โค้งงอเสียรูป ในการเลือกแผงกั้นแฟ้มควรเลือกแผงที่เลื่อนไปมาได้สะดวก แต่ช่วยยึดแฟ้มเอกสารได้คงที่ไม่เลื่อนไปมาตามแรงอัดของเอกสาร และไม่ควรใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้เปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บเอกสาร

ตู้แบบลิ้นชักขนาดมาตรฐานจะมีความลึกและกวางเหมือนกัน แต่ความสูงอาจจะแตกต่างกันตามจำนวนของลิ้นชัก ตู้เก็บเอกสารชนิด 1-2 ลิ้นชัก ใช้สำหรับวางติดกับโต๊ะทำงาน ชนิดมี 3 ลิ้นชัก ใช้ต่อกันทำเป็นเคาน์เตอร์ได้ ชนิดมี 4 ลิ้นชัก เป็นแบบที่ได้รับความนิยมใช้เก็บเอกสารมากที่สุด โดยให้เก็บเอกสารที่ต้องใช้งานบ่อยๆ ไว้ที่ลิ้นชักที่ 3-4 ส่วนเอกสารที่ไม่ค่อยได้ใช้งานให้เก็บไว้ลิ้นชักที่ 1-2 ส่วนชนิด 5 ลิ้นชักสามารถนำมาใช้กั้นห้องแบ่งส่วนกันได้

นอกจากนี้ตู้เก็บเอกสารควรมีฉลากบอกชื่อทุกลิ้นชักให้ชัดเจน เพื่อจะได้ทราบว่ามีเอกสารใดอยู่ในลิ้นชักนั้นบ้าง ฉลากบอกชื่ออาจใช้ชื่อเดียวหรือชื่อคู่ก็ได้ โดยเฉพาะการใช้ชื่อคู่มีส่วนดีก็คือ ทำให้ทราบช่วงของเอกสารได้ง่ายโดยที่ฉลากเพียงแผ่นเดียวก็ทราบว่าเอกสารที่ต้องการอยู่ลิ้นชักใด แต่ถ้าชื่อเดียวต้องดูฉลากถึง 2 แผ่น หรือ 2 ลิ้นชัก นอกจากนี้การติดฉลาก ควรติดจากบนลงล่าง แต่ถ้าวางตู้เรียงติดกันไว้หลาบตู้ก็อาจติดฉลากจากซ้ายไปขวาโดยให้อยู่ในระดับเดียวกัน ในลิ้นชักหนึ่งๆ ควรมีพื้นที่ด้านหลังประมาณ 5 นิ้ว เพื่อไม่ให้เอกสารแน่นลิ้นชักมากเกินไป เพราะจะทำให้เสียเวลาและแรงงานในการนำเอกสารเข้า-ออกจากแหล่งเก็บในตู้ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แฟ้ม บัตรนำ หรือเอกสารชำรุดเสียหายได้

สำหรับการใช้ตู้แบบหิ้งเปิด (Open-Shelf File) เหมาะสำหรับการเก็บเอกสารระหว่างใช้ที่มีปริมาณมากและแหล่งเก็บเอกสารโอน เหมาะสำหรับใช้เอกสารที่เป็นความลับ การเก็บเอกสารในตู้แบบนี้ต้องใช้บัตรนำและแฟ้มพิเศษซึ่งมีส่วนยื่นอยู่ทางด้านข้าง การจัดตู้ไม่จำเป็นต้องเหลือเนื้อที่สำหรับดึงลิ้นชักเอกสารออกมา ตู้ใบหนึ่งอาจมี 7-8 ชั้น จึงทำให้ประหยัดเนื้อที่กว่าการเก็บเอกสารในตู้ธรรมดาประมาณ 50% ราคาถูกกว่าและประหยัดเนื้อที่มากกว่านอกจากนี้ตู้เก็บแบบรางเลื่อน ก็เหมาะสำหรับการเก็บเอกสารในแหล่งที่มีพื้นที่จำกัด เช่นกัน เนื่องจากสารมารถรวบรวมเอกสารไว้ในตู้ได้เป็นจำนวนมาก มีทั้งชนิดแบบลิ้นชัก แบบบานเปิด-ปิด แบบหิ้งเปิด ให้เลือกใช้ตามความต้องการ

การพัฒนาเพื่อต่อยอดยานบินให้กว้างยิ่งขึ้น

ลิเลียม กล่าวว่ามันเป็นก้าวสำคัญในการทดสอบเครื่องบินไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสมดุลสองเป้าหมายที่ยากที่จะบรรลุพร้อมกันกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน การบินขึ้นและลงในแนวตั้งซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้กำลังมากในขณะเดียวกันก็สามารถบินได้ไกลและเร็ว การเริ่มต้นของเยอรมันกล่าวว่าเครื่องบินของมันซึ่งมีปีกสองชุดที่มีปีกเอียงที่มีพัดลมที่มีกำลังแรง 36 ตัวได้ยกขึ้นและเปลี่ยนไปสู่การบินไปข้างหน้าโดยที่ลิ้นอากาศหมุนขึ้นเพื่อชี้ไปที่แฟน ๆ

บริษัท ที่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิคซึ่งระดมทุนได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์และมีรายงานว่ากำลังมองหาอีก 400 ล้านดอลลาร์ถึงอีก 500 ล้านดอลลาร์กล่าวว่าเครื่องบินของ บริษัท สามารถบรรทุกผู้โดยสารสี่คนและกระเป๋าเดินทางรวมถึงนักบิน 300 กิโลเมตร (186 ไมล์) จากนิวยอร์กถึงบอสตันด้วยความเร็ว 300 กม. ต่อชั่วโมงไกลออกไปและเร็วกว่าคะแนนมากที่สุดของสตาร์ทอัพแท็กซี่ทางอากาศไฟฟ้าอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามในขณะที่วิดีโอแสดงจุดเริ่มต้นของกระบวนการเปลี่ยนแปลงมันจะตัดไปก่อนที่จะเสร็จสิ้น ชี้ให้เห็นและข้ามไปข้างหน้าเพื่อถ่ายภาพการบินไปข้างหน้าแบบเต็ม เมื่อเครื่องบินเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเขาบอกว่ามันกำลังทำเช่นนั้นด้วยกำลังดุร้ายของมอเตอร์ 2,000 แรงม้าที่หันหน้าลงและไม่ถึงจุดที่มันบินด้วยลิฟท์ใด ๆ ที่สร้างขึ้นโดยปีก

ช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายเป็นพิเศษ เพราะคุณกำลังพยายามที่จะทำการบินขึ้นดินโดยไม่มีพื้นดินที่ต้องพึ่งพาในขณะที่รักษาเครื่องบินให้สูงขึ้นและควบคุมได้โดยใช้แรงขับแนวตั้งในขณะที่เขาคิดว่าการออกแบบของ ลิเลียม เอื้อต่อการจัดการกับความท้าทายและเขาประทับใจในความก้าวหน้าที่ชัดเจนของการเริ่มต้น“ คณะลูกขุนยังคงออกมา” เขากล่าว ลิเลียม กล่าวว่าเครื่องบินได้ทำการทดสอบ 60 ไมล์ต่อชั่วโมงและ บริษัท กำลังตั้งเป้าที่จะทำการทดสอบด้วยความเร็วสูงสุด

ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดยสามคนที่พบในขณะที่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งมิวนิค ลิเลียม วางแผนที่จะเปิดให้บริการในปี 2568 และกำลังมองหาเส้นทางที่สั้นกว่าเช่นตัวเมืองไปยังสนามบินรวมถึงการขนส่งระหว่างเมือง

ลิเลียม วางแผนที่จะให้บริการของตัวเองแทนที่จะขายเครื่องบินให้กับผู้ให้บริการรายอื่นซึ่ง กล่าวว่าจะอนุญาตให้สร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตามนั่นจะเพิ่มปริมาณเงินทุนที่จำเป็นอย่างมีนัยสำคัญรวมถึงมอบเส้นทางที่ยาวกว่าในการทำกำไร

• เกอร์เบอร์ไม่ได้ปฏิเสธรายงานว่า บริษัท กำลังพยายามเพิ่มเงินครึ่งพันล้านดอลลาร์ซึ่งจะเป็นจำนวนเงินที่รู้จักกันมากที่สุดสำหรับการเริ่มต้นการบินด้วยไฟฟ้า เรามักจะพูดคุยกับนักลงทุนเสมอว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อเริ่มต้น
• ที่ปรึกษา มีเครื่องบินไฟฟ้าสตาร์ทอัพกว่า 170 แห่งทั่วโลก ด้วยความต้องการเงินทุนที่สูงและเวลาในการบินที่ยาวนานจึงเป็นคำถามที่เปิดกว้างว่าจะสามารถหาผู้สนับสนุนที่มีกระเป๋าหลังลึกจำนวนมากที่พร้อมจะบวกจำนวนเก้าร่างที่น่าจะนำต้นแบบมาสู่การบรรลุผลได้
• ลิเลียม ได้ระดมทุนจากนักลงทุนด้านเทคโนโลยีมากมายรวมถึงการร่วมมือกันของจีนซึ่งเป็นกองทุนร่วมทุนของผู้ร่วมก่อตั้ง แอปพลิเคชันสกายพี

บริษัท บอกว่ามันกำลังก้าวหน้าไปสู่การเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตเต็มรูปแบบ มันสร้างโรงงานผลิตขนาด 3,000 ตารางเมตรที่สำนักงานใหญ่มิวนิคซึ่งจะกล่าวว่าในไม่ช้าจะได้รับการสนับสนุนโดยโรงงานขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างในพื้นที่เดียวกัน ลิเลียม ตั้งเป้าที่จะผลิตเครื่องบินหลายร้อยลำต่อปีตามเวลาที่เปิดให้บริการในปี 2568

เคลื่อนไหวเพียงน้อยนิด

ช่วยเสริมให้ร่างกายเกิดการทำงาน

กล่าวอีกนัยหนึ่งสัญญาณของคุณเสีย ร่างกายของคุณไม่ได้รับข้อความเพื่อให้น้ำตาลในร่างกายของคุณปล่อยอินซูลินมากขึ้นเพราะระดับน้ำตาลในเลือดยังคงสูง ดังนั้นสิ่งนี้หมายความว่าเมื่อมันมาถึงการฝึกอบรม ?

คุณสามารถหักโหมกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนาน ๆ เช่นวิ่งซึ่งสามารถกระตุ้นฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันกำลังประสบอยู่ คุณต้องคิดว่าร่างกายของคุณรับมือกับความเครียดอย่างไรและหากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนเกิดขึ้นความเครียดนั้นเป็นสิ่งที่คุณต้องการลดเพื่อลดการเพิ่มขึ้นของคอร์ติซอล ร่างกายของคุณไม่ทราบความแตกต่างระหว่างความเครียดที่ดีและไม่ดีดังนั้นการออกกำลังกายสามารถมองเห็นได้ว่าเป็นความเครียด ความรู้สึกทั้งหมดของร่างกายคืออัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นแรงการหายใจหนักและความวิตกกังวลดังนั้นเราต้องเปลี่ยนสิ่งที่ร่างกายกำลังประสบและทำให้มันกลายเป็นเหตุการณ์ที่วิตกกังวลน้อยลง

นี่คือที่เดินเข้ามาในช่วงหัวใจส่วนใหญ่ของคุณ ฉันเคยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดที่ฉันสามารถทำได้จนกว่าฉันจะเริ่มสนใจอย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวันและเห็นความแตกต่างทันทีในการอักเสบของฉัน มันกลายเป็นเกมของการทำให้แน่ใจว่าฉันทำตามขั้นตอนของฉันทุกวัน ฉันใช้มันเป็นโอกาสที่จะชะลอตัวจากตารางงานที่ยุ่งและเร็วของฉันออกไปในอากาศที่บริสุทธิ์ล้างใจของฉันและฉันก็เริ่มเพลิดเพลินกับช่วงเวลาเหล่านี้จริงๆ ” การเดินเป็นเครื่องควบคุมฮอร์โมนและการเคลื่อนไหวร่างกายของเราตั้งใจทำทุกวัน ”

น้ำหนักการฝึกอบรม

กล้ามเนื้อของคุณเป็นแหล่งเก็บกลูโคสส่วนเกินและโดยการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อติดมันคุณก็ช่วยแก้ไขปัญหาอินซูลินซึ่งส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ซึ่งแปลว่าร่างกายที่ผอมเพรียวและตึงขึ้นซึ่งเป็นเป้าหมายที่นี่ แต่คุณจะเพิ่มมวลร่างกายที่น้อยลงได้อย่างไร นี่คือที่ที่มีการฝึกด้วยตุ้มน้ำหนัก แต่ฉันไม่ได้พูดถึงตุ๊กตาบาร์บี้ อย่ากลัวที่จะยกของหนัก ในการเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อร่างกายของคุณคุณต้องท้าทายกล้ามเนื้อด้วยน้ำหนักและวิธีเดียวที่จะทำได้คือการยกน้ำหนักขนาดใหญ่

ฉันไม่ได้บอกว่าให้เดินไปที่ชั้นวางดัมเบลแล้วหยิบน้ำหนักที่ใหญ่ที่สุดไว้บนชั้น คุณต้องยกของหนักให้คุณในตอนนี้ แต่ … โปรดจำไว้ว่าสิ่งนี้ควรเปลี่ยนการออกกำลังกายแต่ละครั้ง ท้าทายตัวเองในการออกกำลังกายแต่ละครั้งด้วยการผลักตัวแทนอีกหนึ่งหรือยกของหนักขึ้นเล็กน้อย ร่างกายของคุณจะตอบสนองและคุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สวยงาม คุณต้องจำไว้ว่าเรากำลังพยายามทำให้ร่างกายของเราสงบซึ่งหมายความว่าคุณต้องให้ความสนใจกับช่วงเวลาพักผ่อนของคุณในระหว่างการออกกำลังกายของคุณเช่นกัน จำไว้ก่อนหน้านี้เมื่อฉันพูดถึงว่าฉันจะไม่นั่งนิ่ง ๆ ระหว่างฉากของฉัน นี่คือที่ที่คุณต้องใช้เวลา 1-2 นาทีในการพักผ่อนกล้ามเนื้อ ฉันรู้ว่ามันดูน่าเบื่อฉันใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อทำความคุ้นเคยกับมัน แต่มันมีจุดประสงค์สองประการ ก่อนอื่นคุณอนุญาตให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเพื่อให้คุณสามารถยกของหนักขึ้นในชุดถัดไป ประการที่สองคุณรักษาร่างกายให้สงบจึงไม่รู้สึกเครียดและเริ่มผลิตคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น

การเลือกซื้อบ้านมือสองต้องการความละเอียดและความรอบคอบมาก เพราะบ้านมือสองคือบ้านที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อีกทั้ง ยังอาจมีอายุยาวนานจนตัวบ้านเสื่อมสภาพลง ก่อนจะเลือกซื้อบ้านมือสองจึงมีเกณฑ์ต่างๆ ที่ควรประเมินก่อน สำหรับการเลือกบ้านมือสองเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อลงทุน ทำเลคือเรื่องสำคัญ เพราะในแง่ผู้อยู่อาศัย การเลือกทำเลคือความเป็นอยู่ และสำหรับผู้ลงทุน ทำเลก็หมายถึงโอกาสทางการตลาด

ซื้อบ้านมือสองกับสถาบันการเงิน

ก่อนซื้อบ้านมือสองเราควรกำหนดงบประมาณของบ้านไว้คร่าวๆว่าเรามีกำลังในการจ่ายแค่ไหน หลังจากนั้นก็มาดูเงินเก็บ และรายได้ของเราเพื่อวางแผนในการกู้ต่อไป ปัจจัยอื่นๆที่สำคัญในการเลือกบ้านก็ เช่น ทำเลที่ตั้งควรอยู่ใกล้กับชุมชน มีการคมนาคมที่สะดวก ใกล้ที่ทำงาน หรือแหล่งสาธารณูปโภคอื่นๆ และน้ำท่วมไม่ถึง เป็นต้น

เนื่องจากบ้านมือสองอาจก่อสร้างมานานแล้ว สิ่งที่ควรใส่ใจคือความแข็งแรงมั่นคงของโครงสร้างอาคาร หรือบ้านบางหลังที่มีการต่อเติมซึ่งอาจกระทบส่วนโครงสร้าง เช่น บ้านทรุด กำแพงทรุด เป็นต้น จึงควรหาผู้ที่มีความรู้ไปตรวจดูสภาพบ้านด้วย นอกจากนี้ ยังควรเลือกดูจากสภาพบ้านโดยทั่วไปและระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า เป็นต้น โดยสามารถประเมินสิ่งที่ต้องซ่อมแซมหรือปรับปรุงและสรุปเป็นค่าใช้จ่ายรวมกับราคาบ้านได้เพื่อพิจารณาความคุ้มค่า

การเลือกซื้อบ้านมือสองโดยใช้บริการของสถาบันการเงิน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเลือกซื้อบ้านมือสองอย่างชาญฉลาดทางหนึ่ง เพราะมีบ้านมือสองมาให้เลือกจำนวนมากขึ้น และยังมีโอกาสได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านมือสอง เช่น พาไปดูบ้าน ติดต่อด้านสินเชื่อ และการประเมินราคา ซึ่งบริการเหล่านี้มักไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือหากเสียก็น้อยมาก

เทคนิคฉีกกรอบรับถ่ายภาพสินค้าให้ยูนีค มีสไตล์

การถ่ายรูปให้ดึงดูด โดดเด่นนั้นใครๆก็ทำได้ ร้านไหนๆก็ทำได้ แต่จะทำยังไงให้ภาพสินค้านั้นดูมีเอกลักษณ์ ดูมีสไตล์เป็นของตัวเองแบบรู้เลยว่านี่คือแบรนด์อะไร…? เพราะเหล่าช่างภาพที่สร้างสรรค์ผลงานที่ดีเริ่ดขึ้นมานั้น มีทักษะการถ่ายภาพตามทฤษฎีที่เป๊ะ แต่ในขณะเดียวกันก็แหกกฎความเป๊ะพวกนั้นไปด้วย แล้วเล่นกับความนอกกรอบก่อเกิดสไตล์ที่เป็นของตัวเอง ถ้าคุณมัวแต่ลิมิตตัวเองอยู่ในกล่อง และไม่กล้าที่จะฉีกออกไปจากทฤษฎี แล้วความสร้างสรรค์จะมาได้อย่างไร? ภาพสินค้าสุดยูนีคจะไม่มีทางได้เกิด เหมือนอย่างที่แบรนด์ดังๆ ทำได้ และถ้าคุณอยากลอง เราก็มีข้อแนะนำมาให้ทำตามแล้ว

1. แขวนสินค้า
การแขวนสินค้า เพื่อให้เราสามารถถ่ายภาพได้จากมุมต่างๆ ที่แตกต่างกันก็เป็นอีกหนึ่งเวย์ที่น่าลอง หรือคุณอาจลองแบบที่ฉีกกรอบไปกว่านั้น เช่น แขวนกลับหัว หรือแขวนในโลเคชั่นแปลกๆ เล่นล้อเลียนไปกับแบคกราวด้านหลังให้มีความกลมกลืนไปกับมัน ลองไม่ต้องขายโต้งๆ ให้เห็นสินค้าอย่างเดียว แต่ทำให้สินค้าดูกลืนไปกับสถานที่และสิ่งแวดล้อมบ้าง แต่ควรระวังเรื่องแสงให้เป๊ะอย่าให้หลุด

2. ถ่ายจากมุมแปลกๆ

ปกติแล้วช่างภาพจะตั้งกล้องไว้ในระดับเดียวกับสินค้าเพื่อให้ได้ช็อตที่มาจาก eye-level ซึ่งตามกฎแล้วเราจะไม่เล่นกับมุมแปลกๆเพราะจะทำให้สินค้านั้นดูเปลี่ยนไป ลดทอดแมสเสจของตัวสินค้าออกไปได้ แต่บางครั้งอย่างที่บอกไป คุณก็อาจลองแหกกฎดูบ้าง โดยเฉพาะถ้าสามารถเปลี่ยนการลดทอดตรงนั้นให้เกิดเป็นลุค เป็นสไตล์ใหม่ที่น่าสนใจ คุณอาจลองแขวนสินค้าไว้ แล้วถ่ายจากมุมสูง หรือมุมช้อนไปเลยก็ได้

3. ลองช็อตสไตล์มาโคร
ส่วนมากช็อตมาโครจะเอาไว้ใช้เพื่อเชื่อมกับรูปสินค้าหลัก หรือเป็นการอธิบายรายละเอียดของรูปสินค้าแบบปกติ แต่การถ่ายช็อตแบบนี้จะน่าดึงดูด ถ้าลองเอาไปใช้ในโอกาสพิเศษๆ เช่น โปสเตอร์โฆษณาสินค้าที่เด่นๆ ไปเลย มาโครกันให้สุดๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือเรื่องแสง เพื่อให้รายละเอียดส่วนเล็กๆได้โดดเด่นออกมา

4. โชว์การใช้สินค้าแบบแปลกๆ

ลองหยิบสินค้า กระดาษ และปากกาขึ้นมา แล้วเขียนลงมาว่ามีอะไรที่นึกขึ้นได้เวลาถือสินค้าตัวนี้ เขียนออกมาให้หมดโดยไม่ต้องคิดถึงความเป็นไปได้ คุณอาจเริ่มจากการใช้งานแบบปกติที่มันเอาไว้ใช้ แล้วลองจดไอเดียแปลกๆใหม่ๆ ออกมาบ้าง เสร็จแล้วก็ดูที่เขียนออกมาแล้ววงกลมข้อที่คิดว่าน่าจะเอามาถ่ายแล้วมีสไตล์ ในการถ่ายแบบนี้ คุณต้องมีความคิดสร้างสรรค์ให้มาก อาจสร้าง illustration เซตเครื่องแต่งกาย ฉาก หรือพร้อบที่ต้องใช้ขึ้นมาด้วย ดังนั้นควรวางแผนไอเดียทั้งหมดให้เสร็จก่อนจึงจะเร่ิมถ่าย

5. บอกลาแบคกราวสีพื้นเรียบๆ

รูปภาพสินค้าแบบเดิมๆ มักยึดติดอยู่กับการใช้แบคกราวสีพื้นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้มีโฟกัสอยู่ที่สินค้าเป็นหลัก หรือเพื่อที่จะวางรูปอื่นๆในแบกกราวได้ แต่ถ้าได้ลองปรับแบคกราวให้มีเรื่องราวมากขึ้น แปลกใหม่ขึ้น ก็จะสามารถทำให้สินค้าดูน่าสนใจขึ้นอย่างผิดคาดเลยทีเดียว หรือไม่ก็อาจจะถ่ายเป็นเรื่องราวการใช้งานจริงไปเลยก็ได้ ให้เห็นว่าทำไมเขาจึงต้องอยากใช้สินค้าของเรา

ครีมผิวขาว มีวางขายมีมากมาย แล้วเราจะมีวิธีเลือกซื้ออย่างไรบ้าง

ต้องบอกเลยว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสมัยนี้มีให้เลือกมากมายหลากหลายหลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะเลือกอย่างไรดี อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับอันดับแรกเราต้องมาดูเรื่องของงบประมาณว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือครีมผิวขาวที่เราจะเลือกนั้น มันเหมาะกับผิวเราหรือไม่ และจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังหรือเปล่า วันนี้เราจะมาดูหลักการง่ายๆในการเลือกครีมผิวขาวมาฝากเพื่อนๆ กัน

หลักการเลือกครีมผิวขาวข้อแรกที่เราจะดูกันก็คือลักษณะของเนื้อครีมหรือเนื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรเลือกเนื้อครีมให้เหมาะกับประเภทของผิวของตัวเราเองเช่นคนที่มีผิวมันก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาไม่เข้มข้นจนเกินไปเพราะหลักๆแล้วอ่ะมันจะช่วยในเรื่องของการสร้างสภาวะสมดุลให้กับผิวของเรา

ผิวธรรมดา ควรเลือกเนื้อครีมผิวขาวชนิดที่เนื้อไม่เข้มข้นหรือบางเบาจนเกินไปทั้งนี้ทั้งนั้นน่ะก็ต้องดูในเรื่องของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยหากเราต้องเจอสภาพอากาศที่หนาวเย็นควรเลือกชนิดของเนื้อครีมผิวขาวที่เข้มข้นกว่าปกติเพราะถ้าอากาศร้อนเราก็ควรเลือกเนื้อครีมผิวขาวบำรุงผิวให้มีความเข้มข้นน้อยลงหรือบางเบาขึ้นนั่นเอง

ผิวผสม โดยปกติเราจะใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาได้แต่จะไม่เข้มข้นหรือเปล่าบางเกินไปเพราะตัวโลชั่นหรือครีมผิวขาวจะช่วยปรับสมดุลในผิวของหนังของท่านแต่หลักๆแล้วก็อาจจะดูในเรื่องของความแตกต่างในการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อ

ผิวแห้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์หรือเนื้อครีมผิวขาวที่มีความเข้มข้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นหลังจากการล้างหน้าหรือล้างตัว ก็จะรู้สึกว่าผิวไม่มีความแห้งกรานร่านเพราะด้วยความเข้มข้นของตัวเนื้อครีมช่วยปกป้องผิว

ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หรือครีมผิวขาวจะบ่งบอกถึงคุณสมบัติเช่นวิตามินซีช่วยให้ผิวขาวลดเลือนจุดด่างดำส่วนวิตามินอีช่วยให้ผิวชุมชื่นซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้อต่างๆก็พยายามคิดค้นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่มีส่วนประกอบเพิ่มมากมายแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนมีประโยชน์ต่อผิว

หลักการเลือกซื้อครีมผิวขาวหรือโลชั่นว่าควรซื้อโลชั่นยี่ห้อไหนหรือโลชั่นแบบไหนดี

อันดับแรกการเลือกซื้อที่เราจะต้องคำนึงถึงนอกจากหลักการเลือกให้เข้ากับผิวของเราแล้วต้องดูว่าคีมผิวขาวตัวนั้นก่อเกิดสารหรือหลังจากการใช้ครีมบำรุงผิวแล้วเกิดอาการแพ้หรือไม่อย่างไรเพราะถ้าเกิดอาการแพ้อาจจะเป็นอันตรายสำหรับตัวผู้ใช้ครีมได้ค่ะ

ต่อมาการเปลี่ยนครีมผิวขาว บ่อยๆ ไม่ว่า จะเป็นยี่ห้อไหนก็ตามเช่นเปลี่ยนจากครีมมาเป็นเจลซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าบีจะทำให้รู้จักผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าที่เคยใช้มาแต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นการทำร้ายผิวของเราโดยไม่รู้ตัวเพราะนั่นแหละหมายความว่าผิวของเราขึ้นทดลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆไปเรื่อยเรื่อยจนผิวเราไม่อาจจะรับได้ก็ก่อให้เกิดอาการแพ้และเป็นการเสียงเงินโดยใช่เหตุ เรื่องของทัศนคติที่ว่าของดีต้องแพงของแพงต้องดีตรงนี้อยากให้มองในจุดของส่วนผสมหรือส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตครีมผิวขาว

เมืองไทยในเวลาในเวลานี้กำลังมีความสนใจและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ กันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมมีเหตุที่เกิดจากการที่สภาพการณ์การเป็นอยู่ในสังคมเมืองไทยเวลานี้นั้นเริ่มจะมีการพัฒนาทางอุตสาหกรรมแล้วก็เทคโนโลยีอย่างเร็ว เพื่อทำให้การดำนงชีพในด้านต่างๆเองก็มีความสบายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม จากการพัฒนานี้เองก็เป็นการดีแม้กระนั้นก็ก่อให้เกิดผลกระทบเข้ามาในเรื่องของสถานการณ์ที่เป็นมลภาวะที่ส่งผลเสียต่อสภาพทางร่างกายแล้วก็ปัญหานี้เองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คนประเทศไทยส่วนมากเวลานี้กำลังมองหาสิ่งที่จะมาช่วยสำหรับเพื่อการ รักษาสุขภาพให้ดี  ของตนเองกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จากการความพอใจในเรื่องของ รักษาสุขภาพให้ดี  ที่เพิ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้นก็ได้ส่งผลมาจากขณะนี้ได้มีสถานการณ์ที่คือปัญหารวมทั้งมีผลต่อระบบการทำงานภายในร่างกายโดยตรงก็เลยได้มีการทำธุรกิจในลักษณะของของกินและก็ยาหรือกรรมวิธีต่างๆไม่ว่าจะเป็นการบริหารร่างกาย , การหาอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ , การมองหาข้อคิดเห็นจากหมอ ซึ่งขั้นตอนการพวกนี้ได้เป็นสิ่งที่ผู้คนนั้นกำลังมองหาสิ่งที่จะมาช่วยทำให้สุขภาพนั้นดีเลิศขึ้นกว่าเดิมได้ รวมทั้งในเรื่องของความนิยมชมชอบใช้สิ่งที่มาดูแลสุขภาพนั้นก็เป็นแนวทางการมองหาอาหารเสริมที่มีแบบอย่างสำหรับในการกินที่สบายและก็ง่าย โดยแบบอย่างอาหารเสริมที่ได้มีการใช้งานกันเป็นส่วนมากนั้นก็มีตั้งแม้กระนั้น แบบผงชง , แคปซูล , ยาเม็ดทั่วๆไป ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมพวกนี้เองก็สามารถที่จะมองหาได้ตามร้านขายของหรือในสื่ออินเทอร์เน็ตทั่วๆไป

เว้นเสียแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการหาอาหารเสริมเพื่อสุขภาพแล้วนั้นยังสามารถที่จะใช้วิธีในการดูแลสุขภาพแบบเริ่มแรกอย่างเรื่องเกี่ยวกับการบริหารร่างกายที่ช่วยทำให้ระบบการทำงานในร่างกายนั้นมีการดำเนินการที่เป็นระบบมากเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้และก็ในเรื่องเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์นั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมวิธีการวิ่ง , การเข้ายิมหรือการเคลื่อนไหวต่างๆนั้นก็เป็นต้นแบบการบริหารร่างกายที่ทำให้ระบบหลักการทำงานของร่างกายนั้นมีการปฏิบัติงานที่กลับมาปกติแบบเดิม

ซึ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการมองหาแนวทาง รักษาสุขภาพให้ดี เพื่อมีร่างกายที่แข็งแรงได้นั้นก็สามารถที่จะหารายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ในอินเทอร์เน็ตที่ได้มีการหรือแนวความคิดต่างๆไว้ในอินเทอร์เน็ตแล้วก็สามารถที่จะทดลองปฏิบัติด้วยตัวเองได้ไม่ยากตามแบบการให้คำปรึกษาในอินเทอร์เน็ต ก็เลยทำให้เกิดเรื่องที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากด้วยเหตุนั้นแล้วเรื่องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายเองก็เริ่มได้ไม่ยากมิได้ยากแล้วก็ยังสามารถที่จะลงมือกระทำได้ด้วยตัวเองโดยสามารถหาข้อเสนอได้ตามอินเทอร์เน็ตหรือผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะเรื่องนั้นๆ

การจัดงานแต่งเป็นความฝันของคู่แต่งงานทุกคู่ ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวส่วนใหญ่เองต่างก็รู้ตัวดีอยู่แล้วว่างานแต่งงานในฝันของตนนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดงานเป็นจำนวนมากมายขนาดไหน อะไรคือสิ่งจำเป็นหรือไม่จำเป็นจะต้องมี ฉะนั้น เพื่อที่จะประหยัดค่าใช่จ่ายให้ได้มากที่สุด ก็จะมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่น้อยเลยที่เลือกจ้างเพื่อนมาเป็นช่างภาพถ่ายภาพให้ในวันแต่งงาน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำได้ และสามารถช่วยคุณเซฟงบได้มากอยู่เหมือนกัน หากสิ่งที่คุณและเพื่อนที่เป็นช่างภาพนั้น มีความเข้าใจตรงกัน รู้ข้อจำกัด และข้อดี-ข้อเสีย ดังต่อไปนี้

ข้อดีของการจ้างเพื่อนมาเป็นช่างภาพ

ช่วยเซฟค่าใช้จ่าย เราจะได้ยินว่าให้เพื่อนมาเป็นช่างภาพคือจะช่วยเซฟค่าใช้จ่าย แต่อยากให้ทำความเข้าใจตรงกันก่อนว่า การที่เป็นเพื่อนกันก็ใช่ว่าจะมาถ่ายให้ฟรีเสมอไป อันนี้ควรจะอยู่ที่การพูดคุยตกลงกันมากกว่า ว่าเพื่อนจะคิดค่าจ้างแบบไหน อย่างไร ราคาเท่าไหร่ คืออาจจะคิดค่าจ้างในเรทที่ต่ำกว่าช่างภาพปกติทั่วไป (ราคาช่างภาพมืออาชีพจะอยู่ที่ 1x,xxx – 1 แสนบาท) หรืออาจจะถ่ายให้ฟรีในกรณีที่ช่างภาพเต็มใจ การถ่ายภาพไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องใช้ความสามารถและค่าเสื่อมของอุปกรณ์ ค่าเดินทาง ทั้งยังต้องเสียเวลาและค่าเหนื่อยอีก ฉะนั้น ถึงจะสนิทกันแค่ไหน มารยาทที่ดี บ่าวสาวควรจะมีค่าสินน้ำใจตอบแทนให้บ้าง

พูดคุยกันง่าย ข้อดีอีกอย่างของการจ้างเพื่อนมาเป็นช่างภาพงานแต่งให้เราก็คือ ทำให้เราไม่เก็ง ไม่เขินกล้อง รู้สึกสบายๆ สามารถพูดคุย บอกความต้องการกับช่างภาพในช่วงระหว่างงานพิธี หรือหลังจากจบงานไปแล้วได้ง่าย (ทวงงานง่าย แซวได้ในกรณีที่สนิทกันมากๆ)

ข้อเสียของการจ้างเพื่อนมาเป็นช่างภาพ

อาจได้ภาพไม่สวยและเก็บดีเทลระเอียดเท่ามืออาชีพ หากเพื่อนไม่ได้เป็นช่างภาพมืออาชีพ ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพงานแต่งมาก่อน ภาพที่ได้ก็จะเป็นไปตามความสามารถหรืออาจไม่สวยเท่ากับช่างภาพมืออาชีพที่เค้ามีประสบการณ์ด้านนี้มาโดยเฉพาะ ซึ่งตรงนี้ บ่าวสาวต้องเตรียมใจยอมรับในระดับนึงไว้ด้วยเช่นกัน

อาจได้ภาพล่าช้ากว่าที่กำหนด เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ ยิ่งถ้าเป็นงานมาถ่ายให้ฟรีด้วยล่ะก็ อาจจะไม่สามารถไปเร่งช่างภาพให้เค้าส่งภาพให้ตรงตามกำหนดเวลาหรือตามใจเราได้ เพราะช่างภาพส่วนใหญ่จะมีจะทำงานตามคิว และถ้าเพื่อนเป็นช่างภาพมืออาชีพที่มีงานล้นมือ ก็อาจจะต้องรอกันไปยาวๆ เลย

และนี่ก็คือข้อดี-ข้อเสียที่เราพอจะเห็นกันอยู่บ้างในการจ้างเพื่อนมาเป็นช่างภาพให้ในงานแต่งงาน ซึ่งอาจจะมีเหตุการณ์มากหรือน้อยกว่านี้ อยู่ที่ตัวบุคคล แต่ที่แน่ๆ คือสิ่งเหล่านี้น่าจะพอทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวสามารถตัดสินใจได้แล้วว่าจะจ้างใครมาถ่ายภาพให้ดีแบบไหนอุ่นใจกว่า