วิธีการเลือกใช้รถกระเช้าบูมลิฟ์ให้เหมาะสมกับงาน

รถกระเช้าจะมีลักษณะของการเป็นรถที่มีกระเช้าติดกับตัวรถ ที่สามารถพาคนจำนวนหนึ่งขึ้นไปสู่ที่สูงได้ เหมาะสมต่อการใช้ในด้านงานก่อสร้าง งานเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง ซ่อมสายไฟ หรืองานตัดต้นไม้ รวมไปถึงงานภายในโกดังเก็บของต่าง ๆ ซึ่งรถกระเช้าจะมีแบ่งออกเป็นหลายประเภท และถูกทำมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมต่อธุรกิจแต่ละรูปแบบมากที่สุด

สำหรับผู้ที่สนใจจะเลือกใช้รถกระเช้า เพื่อให้เหมาะสมต่องานมากที่สุด เรื่องที่คุณควรรู้เป็นเรื่องแรก คือ ประเภทของรถกระเช้าที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานธุรกิจของคุณให้ตรงเป้าหมายได้มากที่สุด โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน คือ
1.รถกระเช้าทั่วไป
รถกระเช้าแบบทั่วไปจะเป็นรถปฏิบัติงานสำหรับที่สูง โดยจะมีเสาและช่วงปลายจะมีกระเช้า สำหรับการบรรจุคน เหมาะสำหรับงานทางด้านการติดตั้งหลังคา งานซ่อมบำรุง การทำสายไฟ การทาสี การทำสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนหลอดไฟบนเสาที่มีความสูง และสามารถทำได้อีกหลากหลายงานเลยทีเดียว ซึ่งรถกระเช้าประเภทนี้จำเป็นจะต้องมีมาตรฐานให้ความปลอดภัย ใช้งานง่าย และเพิ่มความสะดวกต่อผู้ใช้ พร้อมการมีใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือมาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถนำออกใช้งานได้อย่างถูกต้อง
2.รถกระเช้าไฟฟ้าบูมลิฟท์
รถกระเช้าแบบบูมลิฟท์ จะสามารถใช้งานบนที่สูงได้ง่ายมากขึ้น เหมาะสำหรับงานนอกอาคารบนที่สูงและมีจุดเข้าถึงยาก โดยช่วงปลายของเสาจะเป็นกระเช้าแบบนั่งร้าน ที่จะมีจุดควบคุมมาให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตัวควบคุมนี้จะมีทั้งภายในรถและมีแผงควบคุมด้านบน ผู้ที่จะต้องทำงานตามจุดต่าง ๆ จึงสามารถใช้งานตัวกระเช้าได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องส่งคำสั่งใด ๆ ลงไปที่ผู้ขับรถด้านล่าง เหมาะสำหรับการใช้งานตามจุดต่าง ๆ ของอาคารที่เข้าถึงได้ยาก มีซอกหรือมุมอับ เพราะจะสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางหรือสายไฟ และอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่ายกว่ารถกระเช้าแบบทั่วไป
3.รถกระเช้า X-Lift
รถกระเช้าแบบ X-Lift หรือ SCISSORS LIFT มีชื่อไทยเรียกง่าย ๆ ว่ารถกระเช้าแบบขากรรไกร ถูกออกแบบมาเพื่อให้ยืดขึ้นและใช้งานบนที่สูงได้อย่างมั่นคง ให้ความคล่องตัวต่องานภายในโกดัง หรืองานปรับปรุงและติดตั้งระบบไฟฟ้า หรือการติดตั้งอุปกรณ์ติดเพดานได้ง่ายมากขึ้น สามารถปรับระดับความสูงได้อย่างรวดเร็ว มีจุดควบคุมอยู่ภายในกระเช้า พร้อมการยืดออกเพื่อไปสู่จุดต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าซ่อมแซม หรือติดตั้งได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ตัวรถจะสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคารอย่างเหมาะสม
4.รถเฮี๊ยบ
รถเฮี๊ยบจะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของรถกระเช้า ที่สามารถให้การใช้งานแบบอเนกประสงค์มากขึ้น เพราะการใช้งานหลักจะเป็นการขนเครื่องจักร, วัสดุก่อสร้าง หรืออุปกรณ์และเครื่องมือใด ๆ ที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมีเสาที่สามารถยึดของต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคงและดึงของขึ้น-ลงจากรถได้อย่างสะดวก ซึ่งรถเฮี๊ยบสามารถที่จะต่อช่วงปลาย เพื่อใช้งานร่วมกับรถกระเช้าได้ โดยตัวเครนของรถเฮี๊ยบสามารถรับน้ำหนักได้สูงกว่า 5 ตัน พร้อมการใช้งานเพื่อขนส่งได้ทั้งท่อน้ำขนาดใหญ่ แผ่นกระจก แผ่นป้าย และของต่าง ๆ ได้ดี
ข้อปฏิบัติสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนใช้งานรถกระเช้า การใช้งานรถกระเช้ามีความจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำตามข้อปฏิบัติสำคัญในด้านการทำงาน เมื่อมีการนำรถกระเช้าเข้าพื้นที่ต่าง ๆ จะต้องมีการควบคุมพื้นที่ของการทำงานให้เกิดความเหมาะสมและความปลอดภัย ต้องมีการขออนุญาตเพื่อใช้งานและจะต้องมีการวิเคราะห์กับการประเมินความเสี่ยง ทั้งยังต้องมีการพิจารณาใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมในด้านการปิดกั้นและการควบคุมพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งถ้าถูกใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือเป็นพื้นที่ต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ จะต้องมีการรับรองผ่านทางสามัญวิศวกร พร้อมไปด้วยการใช้รั้วบน รั้วกลาง และแผ่นกั้นต่าง ๆ เพื่อป้องกันของตกหล่น และจะต้องทำตามหลักมาตรฐานความปลอดภัยสากล ที่สำคัญคืองานและการใช้รถกระเช้า จะต้องไม่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย